“ภาษีดอกเบี้ย” เป็นภาษีรูปแบบหนึ่งที่จะต้องนำรายได้ที่ได้จากดอกเบี้ยเงินฝากไปคำนวณ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ฝากเงินมีหน้าที่ต้องเสียภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้ในปีภาษีนั้น ๆ เกินกว่าจำนวนเงิน 20,000 บาท โดยจะถูกหัก ณ ที่จ่าย 15% ของยอดดอกเบี้ยตั้งแต่บาทแรก ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจำนวน 50,000 บาท จะต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15% x 50,000 เท่ากับ 7,500 บาท โดยธนาคารจะจ่ายเงินให้กับ นาย ก. เป็นค่าดอกเบี้ยเงินฝากจำนวน 42,500 บาท และหัก ณ ที่จ่ายไว้ 7,500 บาท เพื่อรวบรวมส่งให้กรมสรรพากรต่อไป
หลาย ๆ คนอาจจะเกิดข้อสงสัยและมีคำถามว่า หากไม่อยากเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากนั้น สามารถทำได้หรือไม่ คำตอบคือทำได้ แต่ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด ทำได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและวิธีการต่าง ๆ
How to ทำอย่างไรได้บ้างเพื่อไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก
1. วางแผนการออมเงิน
การวางแผนการออมเงิน จะทำให้สามารถทราบรายได้ที่จะเกิดขึ้นจากการได้รับดอกเบี้ยเงินฝากเกินกว่า 20,000 บาทในทุกบัญชีเงินออมทรัพย์ที่เป็นชื่อของตนเองได้ ดังนั้นหากเห็นว่าในปีใดอาจเข้าเกณฑ์เสียภาษีดอกเบี้ย ควรเลือกกระจายการเก็บออมไปหลาย ๆ ช่องทางที่ได้รับการยกเว้นภาษี จะทำให้เราไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้ได้นั่นเอง
2. เลือกประเภทเงินฝากที่เหมาะสม
ผู้ฝากเงินสามารถเลือกประเภทเงินฝากที่เหมาะสมกับความต้องการและวัตถุประสงค์ในการออมเงิน เพื่อได้รับดอกเบี้ยเงินฝากที่คุ้มค่าที่สุด ตัวอย่างเช่น หากผู้ฝากเงินต้องการได้รับดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงและไม่อยากเสียภาษีจากดอกเบี้ย ก็ควรเลือกฝากเงินประจำปลอดภาษีที่มีระยะเวลาฝาก หรือฝากเงินกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี เช่น การซื้อสลากออมทรัพย์จากธนาคารของรัฐ การเป็นสมาชิกสหกรณ์และฝากเงินกับสหกรณ์นั้น ๆ ซึ่งดอกเบี้ยจากเงินฝากเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นภาษี
3. พิจารณาทางเลือกอื่น ๆ ในการออมเงิน
หากผู้ฝากเงินต้องการลดภาระการเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากลง ก็สามารถพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ ในการเก็บออมได้ เช่น การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบ 2 เด้ง และมากกว่าการฝากเงินในธนาคาร คือ ทั้งการไม่เสียภาษีจากกำไรผลตอบแทนที่ได้รับ และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินที่นำไปลงทุนได้ด้วย
4. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อขอคืนภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก
หากผู้ฝากเงินมีเงินฝากรวมทุกบัญชีทุกธนาคารเกิน 20,000 บาทต่อปี แต่มีรายได้ซึ่งเป็นฐานภาษี น้อยกว่าหรือเท่ากับ 15% ก็สามารถขอคืนภาษีดอกเบี้ยเงินฝากได้ แต่ต้องมั่นใจจริง ๆ ว่าการนำ Final Tax ในรูปแบบดอกเบี้ยเงินฝากมาคิดคำนวณร่วมกับเงินได้พึงประเมิน จะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินภาษีกว่าการไม่นำมาคิด ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถเลือกได้ กฎหมายไม่บังคับ
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าวิธีที่จะทำให้ไม่ต้องภาษีดอกเบี้ยเงินฝากสามารถทำได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด หากผู้ฝากเงินหลีกเลี่ยงภาษีเงินฝากด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดีทางอาญาได้ ดังนั้นขอแนะนำว่า หากผู้ฝากเงินไม่อยากเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก สามารถพิจารณาวิธีการต่าง ๆ ข้างต้นได้ แต่ควรทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาได้ในภายหลัง ที่มีโทษปรับสูงกว่าภาษีที่ต้องจ่ายหลายเท่าตัว